ก็จะแตกต่างจากไฟบ้าน คือ เป็นไฟที่ใช้สำหรับทำการเกษตรนั่นเอง ไฟที่ใช้ภายในสวน ใช้สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่อการเกษตร โดยเกษตรกรสามารถขอไฟนี้ได้ฟรี เพียงแค่ทำให้ตรงตามเงื่อนไข มีขั้นตอนการขอไม่ย า กเลย หากสนใจก็มาลองมาดู  เทคนิคขอไฟฟ้าลงพื้นที่เกษตร และนำไปขอไฟกันได้เลย

เอกสารที่จะต้องใช้

1. สำเนาทะเบียนบ้าน
2. สำเนาโฉนดที่ดิน
3. สำเนาบัตรประชาชน
4. ใบรับองจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรือหน่วยงานราชการ

เงื่อนไขการขอไฟเกษตร

1. ทำการรวมกลุ่มบ้าน ในโซนเดียวกันให้ได้ 3 หลังขึ้นไป ถึงจะเริ่มขอไฟเข้าไปได้ หากไม่ถึง 3 จะขอไม่ได้เพราะน้ำหนักมาพอ แต่ถ้าหากว่าในพื้นที่นั้นมีบ้านเพียงหลังเดียวก็อาจขอไฟพิเศษได้แต่ว่าค่าไฟนั้นแพงมากเลยล่ะเมื่อเทียบกับค่าไฟปกติ

2. อย่าลืมทำเรื่องขอเอกสารรับรองจากองค์กรณ์ปกครองส่วนท้องถิ่นหรือหน่วยงานราชการเพื่อเป็นการยืนยันว่าพื้นที่ทำเกษตรของเรานั้นไม่ได้อยู่ในพื้นทีหวงห้าม หรือ พื้นที่ของรัฐ
3. จะต้องเป็นพื้นที่มีเส้นทางสาธารณะผ่านเข้าออกสะดวกด้วยนะ

4. สามารถก่อสร้างทำระบบจ่ายโดยการปักเสาพาดไฟเข้าไปถึงจุดที่ขอไฟได้

5. จะต้องมีการระบบตำแหน่งแหล่งน้ำที่ใช้ในการเกษตร ของพื้นที่ที่ขอไฟด้วย เช่น คลองสาธารณะ คลองชลประทาน แหล่งน้ำใต้ดินต่าง ๆ

6. จะต้องมีเอกสารหลักฐานสิทธิ์ตามประมาณกฎหมายของพื้นที่ทำการเกษตร และต้องไม่ใช่ที่ดินที่ถือครองโดยเอกชนรายใหญ่

7. เกษตรกรรายย่อยขอติดตั้งมิเตอร์ได้ ขนาดไม่เกิน 15 (45) แอมป์ ต่อ 1 ราย

8. จะต้องสามารถออกใบแจ้งหนี้ค่ากระแสไฟฟ้ามิเตอร์เครื่องที่ 2 (ใหม่) ได้ โดยจะแจ้งเก็บเงินไปที่มิเตอร์เครื่องที่ 1 (เก่า) และทั้ง 2 มิเตอร์นั้นจะต้องอยู่ในเขตของพื้นที่ของการไฟฟ้าเดียวกันด้วย

9. สำหรับค่าใช้จ่ายในการขยายเขตต่อรายนั้น เฉลี่ยที่ไม่เกิน 5 หมื่นบาท ซึ่ง การไฟฟ้าจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการขยายเขต

10. ในการขอติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้านั้น จะมีค่าธรรมเนียมตามขนาดของมิเตอร์ 5(15) แอมป์ ค่าธรรมเนียม 1,000 บาท  ถ้าเป็นขนาด 15(45) แอมป์ 1 เฟส ค่าธรรมเนียม 6,450 บาท และขนาด 15(45) แอมป์ 3 เฟส ค่าธรรมเนียม 21,350 บาท

ขั้นตอนการขอไฟเกษตร

1. ในกรณีที่สวนอยู่ติดบ้าน เราก็ถ่ายรูปบ้านนั้น ที่พักนั้นด้วย โดยในสวนต้องมีห้องน้ำที่ให้อนามัย มาตรวจสอบความพร้อมแล้วและเซ็นต์เอกสารรับรองการเป็นอยู่ที่ถูกสุขลักษณะในสวนด้วย กรณีที่สวนอยู่ไกลบ้านเราต้องสร้างเพิงพักไว้พร้อมห้องน้ำแบบถาวร ทำให้เหมือนเราอยู่ในนั้นเลย

2. ต่อไปก็เอาหนังสือไปยื่นให้กับผู้ใหญ่บ้านหรือผู้ที่รับผิดชอบในการขอบ้านเลขที่ แล้วเขาจะนำไปยื่นเรื่องต่ออำเภอ เพื่อลงทะเบียนขอสำเนาทะเบียนบ้าน ซึ่งพอได้มาแล้วเราก็จะมีบ้านเลขที่และสำเนาทะเบียนบ้านมา

3. พอเราได้เอกสารมาแล้วก็นำไปยื่นเรื่องที่องค์กรการปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่นั้น เพื่อให้เจ้าหน้าที่รับรองโดยแนบสำเนาทะเบียนบ้านเราและเพื่อนบ้าน 3 หลังหรือมากกว่านั้นที่ขอไฟพร้อมกันแนบไปพร้อมกันเลย

4 เมื่อองค์กรรับรองแล้วเราเอาเอกสารที่ได้มานั้นไปยื่นขอไฟฟ้าที่อำเภอเลย ทำการยื่นเรื่องไว้และรอแต่ก็อย่าลืมติดตามถามความคืบหน้าอยู่เสมอด้วย จะได้ทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้ตลอดไม่ลืมไฟของเรา แล้วเราก็จะได้ไฟมาเข้าสวน ส่วนระยะเวลาจะนานแค่ไหนนั้นก็ขึ้นอยู่กับการทำงานของเจ้าหน้าทีและความเรียบร้อยของเอกสารและพื้นที่ของเรา

หากคุณอยากจะได้ไฟเข้าสวนบ้างเพื่อใช้ในการทำเกษตรอย่าลืมทำตามขั้นตอนที่แนะนำข้างบนนี้ได้เลยอย่าลืมเตรียมความพร้อมให้สวนให้ดี โดยเฉพาะเพิงพักและห้องน้ำที่ได้มาตรฐาน หากมันไม่ดีพอเขาจะไม่ อนุมัติให้นะ